หม้อในพระหัตถ์ โดย เจิม ซัม

ม คือหม้อใบหนึ่งที่ท่านผู้หนึ่งได้ซื้อไว้ ท่านให้ราคาผมสูงกว่าที่ผมเป็นผมเป็นหม้อที่ถูกทอดทิ้งให้ตากแดดตากฝนมาเป็น เวลานาน ไม่เคยได้รับการดูแลและขัดเกลา เป็นเพียงหม้อเก่าๆที่ไม่ควรค่าที่ใครๆจะซื้อไว้ไปใช้การ เพราะแม้แต่ตัวผมเองก็ยังมองไม่เห็นหนทางในการที่จะทำให้ตนเองสะอาดขึ้นมา ได้ ผมกระดำกระด่าง บุบๆเบี้ยวๆไร้รูปทรง จะเอาหม้ออย่างผมไปใช้การอะไรคงไม่ได้หรอกกระมัง เพราะแม้แต่จะเอาผมวางไว้บนเตาไฟอย่างดี ผมก็ยังเอียงกระเท่เร่จะคว่ำมิคว่ำแหล่(หวังว่าผมคงจะไม่พูดหยาบเกินไปนะครับ)


วันที่ผมถูกซื้อไว้นั้น ใครๆเขาก็หัวเราะกันทั้งนั้น เขาคิดยังไงของเขานะ ถึงได้มาซื้อหม้อเก่าๆเอาไปใช้ มิหนำซ้ำ ยังให้ราคาสูงกว่าหม้อทั่วไปที่เขาขายกันในท้องตลาดอีกแน่ะ...ท่าจะ... เสียง ผู้คนที่รู้เรื่องของผม ต่างกระซิบกระซาบต่อๆกันไป ผมล่ะเบื่อ...เสียงนกเสียงกา แต่ก็ช่างเขาเถอะครับ พวกเขาคงจะอิจฉาผม ที่มีคนมาซื้อผมไปใช้แทนที่จะทำลายทิ้ง ผมซาบซึ้งใจจริงๆ ผมพูดไปร้อง ไห้ไป(แม้ว่า คงไม่มีใครเห็นน้ำตาและได้ยินเสียงพูดของผมก็ตามเถอะ)

วันแรกที่ท่านเอาผมมาไว้ในบ้าน ผมก็ถูกมอบไว้ให้คนครัว ท่านได้สั่งกำชับคนครัวว่า จงทำความสะอาดหม้อใบนี้ให้เรา คนครัวได้ยินก็ตอบว่า ขอรับท่าน และไม่รอช้าที่จะลงมือเอาผมไปแช่น้ำสบู่ทิ้งเอาไว้ ผมสำลักน้ำแทบตาย เพราะไม่เคยมีใครเคยเอาผมไปแช่น้ำทิ้งไว้อย่างนี้มาก่อน ผมรอคอยว่า เมื่อไรเขาจะมาเอาผมขึ้นไปจากน้ำเสียที แต่คอยตั้งแต่ตะวันตกดินจนตะวันขึ้น ผมก็ยังคงถูกแช่น้ำทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น ผมไม่อยากอยู่ในน้ำนี้อีกแล้ว ช่วยเอาผมออกไปเดี๋ยว นี้ได้ไหม? ผมพยายามดิ้นรนช่วยตัวเองอยู่นาน ในที่สุดก็อ่อนแรง และยอมอยู่ในน้ำซึ่งก่อนนั้นเป็นน้ำที่ใสสะอาด แต่ตอนนี้มันเป็นน้ำที่ดำปี๋ ดำเหมือนน้ำครำในคลองแสนแสบยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ เอาขึ้นมาขัดได้แล้ว นั่นฝอยขัดหม้ออย่างดีที่เราเพิ่งซื้อมาใหม่ๆ ขัดมันจนกว่าจะขึ้นเงาเลยนะ


ผมได้ยินเพียงแค่นั้น ก็รีบตะโกนบอกว่า ท่านครับ ทิ้งผมให้อยู่ในน้ำอย่างนี้ต่อไปอีกก็ได้ ผมไม่อยากถูกขัดเลย แต่ไม่มีใครฟังผมเลย ผมถูกยกขึ้นมาจากน้ำ และทันใดนั้น คนครัวก็หิ้วหูทั้งสองข้างที่บิดๆเบี้ยวๆของผมขึ้น และลงมือทำงานของเขา ผมร้องลั่นอย่างเจ็บปวด เมื่อฝอยขัดหม้อหยาบๆ ขูดเนื้อขูดตัวผมอย่างสุดกำลังคนขัด โอ๊ย! ทำไม พวกคุณถึงทารุณผมอย่างนี้ด้วยเล่า ผมอยู่ของผมดีๆไม่ใช่หรือ ไปซื้อผมมา แล้วทำทารุณกับผมอย่างนี้ได้ยังไง...ปล่อยผมไปเดี๋ยวนี้นะ

คุณเชื่อไหมละครับ ผมร้องจนไม่มีเสียงจะร้องอีกต่อไป คน ขัดก็ขัดเอาๆ ไม่สนใจเลยว่าผมรู้สึกอย่างไร ผมล่ะเกลียดไอ้ฝอยขัดนั่นเสียจริงๆ นี่ถ้าสาบมันให้หายสาบสูญไปได้ก็คงจะดี (จริงๆแล้ว ผมก็พยายามทำอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จเจ็บใจเสียจริงๆ!) ผมทุรนทุรายในมือของคนขัด โอย!จะขัดกันไปถึงไหน? พอได้แล้วน่า...ผมเจ็บมากนะ ผมคราง หวังเหลือเกินว่าเขาจะได้ยินเสียงที่ผมบ่น เสียงคนขัดพูดกับเพื่อนของเขาว่า เออ....ดูดีขึ้นเยอะเลย ไอ้หม้อใบนี้ของนายนี่ ขัดยากกว่าใบอื่นๆที่นายซื้อมาเยอะเลยนะ เขาพูดพร้อมกับส่ายหน้า ผมล่ะโมโหสุดๆ เลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขายังไม่ยอมปล่อยผมออกจากมือ นายสั่งไว้ว่าให้ขัดจนขึ้นเงา นี่ใช้ฝอยขัดหมดไปตั้งหลายอันแล้วยังมองไม่เห็นเงาเลย!” ว่าแล้วเขาก็ร้องบอกเพื่อนว่า เฮ้! เพื่อนยาก ช่วยเอาฝอยอันใหม่อีกอันให้ฉันหน่อย คราวนี้คงจะเสร็จ เสร็จเหรอ?? โอ๊ย...ผมเสร็จแน่คราวนี้ ใครก็ได้ครับ...มาช่วยผมด้วย!” ผมทั้งร้องไห้ ทั้งวิงวอนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ไม่มีใครสนใจผมเลยแม้แต่นิดเดียว

แล้วผมก็ถูกขัดต่อไป (คิดว่าคงสลบไปหลายครั้งแล้วกระมัง) เพราะในที่ สุดผมก็ได้ยินเสียงของท่านที่ซื้อผมมากล่าวว่า ดีแล้ว ขัดได้สะอาดดีมาก ตอนนี้ก็ได้เวลาที่เราจะต้องเอามันไปทุบ ผมสะดุ้งโหยง ตกใจสุดขีด อะไรนะ แค่นี้ยังไม่พอ จะมาทุบผมอีกเหรอ แล้วผมก็ถูกนำไปทุบ มันเจ็บมากนะครับ เจ็บจนผมคิดว่า นี่ถ้าผมตายไปได้ก็คงจะดีกว่านี้แน่ คนทุบจะรู้ไหมว่า เขา ไม่ได้ทุบแต่ตัวของผมเท่านั้น แต่ได้ทุบใจของผมจนแหลกสลายไปด้วย กี่ครั้งที่ผมถูกทุบ เขาทำกับผมอีกหลายอย่างจนผมนับไม่ไหวแล้ว แม้แต่หูที่เคยบิดๆเบี้ยวของผม ก็ถูกนำไปดัดให้กลับเข้าที่ (มันเจ็บจริงๆนะครับ ตอนที่เขาดัดหูของผมเนี่ย แต่ก็รู้สึกดีที่ฟังอะไรๆชัดขึ้นมาเยอะเลย!)

แล้วคนครัวก็นำผมไปให้ท่านที่ซื้อผมมา ท่านยิ้มอย่างพอใจ ดีมาก ผมได้ยินคำนั้นก็ดีใจ มองเห็นตัวเองในกระจกเงาแล้วก็ต้องยิ้มพร้อมกับท่านไปด้วย แหม เรานี่ก็หล่อไม่เบาเลยแฮะ ผมชื่นชมสภาพใหม่ของตน แต่ใจก็ยังกลัวๆอยู่ว่า...จะมีคำสั่งอะไรตามมาอีก แล้วท่านก็สั่งว่า เราพอใจแล้ว มันช่างเป็นหม้อที่ดีจริงๆ เราดูแล้วไม่ผิดเลย เอามันไปไว้ใช้ในครัวได้


ท่านกล่าวต่อไปอีกว่า เรา ไม่มีความพอใจที่จะเห็นภาชนะที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ถูกทิ้งไว้ให้ตากแดดตาก ฝนเหมือนสิ่งไร้ค่า เราจึงซื้อมันมาจากผู้ที่กล่าวอ้าง ว่าตนเป็นเจ้าของๆมัน วันนั้นใครๆ ก็หัวเราะในการกระทำของเรา ว่าช่างเขลานัก แต่...ดูตอนนี้สิ หม้อใบนี้ได้มาอยู่ในมือของเรา และเราจะใช้มันให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เราชอบใจมันมากจริงๆ!”


ถ้อยคำเหล่านั้นของท่าน ทำให้ผมซาบซึ้งใจ น้ำตาผมคลอเบ้า ลืมความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อตอนที่ถูกขัดถูกทุบเป็นปลิดทิ้ง ผมยังจำถ้อยคำของท่านจนถึงทุกวันนี้ มันถูกจารึกไว้ในแผ่นดวงใจของผมแล้วอย่างแน่นแฟ้นไม่มีวันลืม นี่ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ผมก็คงจะกลายเป็นหม้อเก่าๆที่ไร้ค่าและผุพังไปแล้ว


“ขอบคุณครับท่าน ผมเอ่ยขึ้นด้วยสำนึกในพระคุณ

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไป ทุกวันของผมช่างมีความหมาย และผมก็ได้กลายเป็นหม้อที่มีคุณค่าอยู่ในครัวของนาย...


โดย เจิม ซัม

12 มีนา 2009

** อยากบอกกับทุกคนว่า "อย่ากลัวที่จะอยู่ในมือของคนขัดเลย เพราะนายของเรารู้แล้วว่าจะทำอย่างไรจึงจะทำให้เราขึ้นเงา เพื่อเราจะไม่เป็นเหมือนหม้อใบเดิมที่ใช้การไม่ได้ แต่จะได้กลายเป็นหม้อที่อยู่ในครัวของนาย มีค่าควรแก่การนำมาใช้"

"โปรดเปลี่ยนใจฉันใหม่..ให้เป็นเหมือนพระองค์..."

โรม 12:1-2

ที่มา : ข่าวคริสตชน www.KaoChristian.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น