
พระเจ้าทรงช่วยผู้ที่รักพระองค์ให้เกิดผลดีในทุกสิ่ง โดย นคร เวชสุภาพร
อิสยาห์ 43:1-3 บอกให้ท่านเห็นว่าพระเจ้าจะนำเราอย่างนี้
"1 บัดนี้ พระเจ้าผู้ได้สร้างท่านยาโคบ พระองค์ผู้ได้ทรงปั้นท่านอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา
2เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า
3 เพราะเราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า ให้เอธิโอเปียและเสบาเพื่อแลกกับเจ้า"
อย่ากลัวเลย
"อย่า กลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้า เราได้เลือกเจ้าแล้ว" พูดกับในใจของเราเอง พระเจ้าบอกเราอย่ากลัวเลย เพราะว่าได้ไถ่แล้ว เลือกแล้วไม่ต้องห่วง แล้วก็อธิบายให้ฟังนิดหนึ่งว่า "ถ้าเจ้าลุยข้ามน้ำนะ เราก็จะอยู่ด้วย"
ถามว่าเวลาลุยข้าม ในนี้บอกว่า "เมื่อเจ้าข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า" แต่ไม่สัญญาว่าจะไม่เปียก ต้องข้ามหรือเปล่า?
ในนี้บอกหรือเปล่าว่า "เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะแบกเจ้าลอยไป" เปล่า บอกว่า "เมื่อเจ้าลุยน้ำ ก็ลุยไปสิ" ไม่ว่าอะไร? "
แต่เราจะอยู่ด้วย เราจะไม่แบกเจ้าหรอก เจ้าลุยไป เราก็จะอยู่กับเจ้านั่นแหละ
แต่รับรองเราจะทำให้น้ำไม่ท่วมเจ้า" แต่มันอาจจะถึงจมูกนะ ไม่ท่วมก็แล้วกัน ไม่ตายก็แล้วกัน ตื่นเต้น
"เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า"
ไม่ได้บอกว่า "เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ร้อน" ในนี้บอกว่า
"เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้" ท่านเคยปิ้งของไหม? ถึงไม่ไหม้ มันทำไม? มันสุกได้นะ
มันร้อนจนสุกได้ เปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญท่าน มันไม่อันตราย เราจะอยู่ด้วย
เพราะในนี้บอก "เพราะเราเป็นพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเจ้า
องค์ บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ช่วยให้รอดของเจ้า ผู้ทรงช่วยเจ้าให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง" ไปที่ไหนก็ไปด้วย แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะลอยอยู่ในอากาศตลอด
ผ่านความทุกข์บ้าง
ผ่านความตื่นเต้นบ้าง
ผ่านเพื่ออะไร?
เดี๋ยวติดตามถ้อยคำพระเจ้าต่อไป
ตอนนี้เรามาดู ยอห์น 14:15-20
บอกเรา บอกพวกที่เป็นคริสเตียนแล้วในสมัยพระเยซูที่มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วบอกว่า
เราอยู่กับเจ้า พระเจ้าอยู่กับเราจริงๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่า พระเจ้าสถิตอยู่กับเรา
ยอห์น 14:15-20
พระเยซูตรัสว่า "
15 ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป
17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน
18 เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน
19 อีกหน่อยหนึ่งโลกก็จะไม่เห็นเรา แต่ท่านทั้งหลายจะเห็นเรา เพราะเราดำรงอยู่ ท่านทั้งหลายก็ดำรงอยู่ด้วย
20 ในวันนั้นท่านทั้งหลาย จะรู้ว่าเราอยู่ในพระบิดา และท่านอยู่ในเรา และเราอยู่ในท่าน"
ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
ความ รักที่เรารักพระเยซูได้ ก็เพราะว่าพระเจ้าประทานให้กับเรานั่นเอง ประทานความเชื่อให้กับเรา ประทานความรักให้กับเราสามารถรักพระเยซูได้
คิดดูสิ เป็นพระคุณทั้งสิ้น และในนี้บอกว่า ในข้อ 18 ในภาษาเดิมบอกว่า "เราจะไม่ละทิ้งท่านให้เป็นเด็กกำพร้า"
คือมีผู้ดูแลตลอด พระเจ้าในนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์ อยู่กับเรา
ท่านไม่รู้หรือว่าร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์
วิหารพระเจ้าคือพระเจ้าสถิตอยู่ พระเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลา
แม้ตาเราไม่เห็นก็จริง แต่เรารู้ เพราะว่ามันอยู่ในใจของเรา
เรารู้ ที่เรามาโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ที่เราเข้ากลุ่มตอนบ่าย
ที่เราถวายทรัพย์ หรือเราทำอะไรเกี่ยวกับพระเจ้าที่เป็นความเชื่อ ที่หลายคนงง "เอ๊ะ! ทำไมเราทำอย่างนี้"
เพราะเรารู้อยู่ข้างใน ถามว่าเราเห็นพระเจ้าด้วยตาเนื้อหรือ?
เราไม่เห็นหรอก และถามว่าเพราะว่าหมายสำคัญต่างๆ เหล่านั้นใช่ไหมที่เรายังเชื่อในพระเจ้าอยู่
มีส่วนประกอบนิดเดียว แต่ส่วนใหญ่ 90% มันคือข้างใน ต่อให้เราทุกข์ใจอย่างไร?
เรา ไม่เอาพระเจ้าแล้ว วิ่งหนีออกไปจากพระเจ้าไปเลย ถ้าพระเจ้าสถิตอยู่ในนี้ด้วย เดี๋ยวเราก็สงบลง แล้วเราก็บอก "พระเจ้าขอยกโทษให้ลูกด้วย" กี่ครั้งแล้วเราทำอย่างนี้ เราลองถามชีวิตเราเอง
กี่ครั้งที่เป็นอย่างนี้ กี่ครั้งที่เราบอกว่าพระเจ้าไม่มีจริง
พระเจ้าไม่อยู่ด้วยแน่นอน แล้วก็ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็ "ขอโทษนะพระเจ้า"
อาจจะไม่ได้พูด แต่คิดในใจ "พระเจ้าขอยกโทษให้ลูกด้วย
ลูกเชื่อว่าพระองค์ยังมีชีวิตอยู่" เห็นหรือ? ไม่เห็น แต่เพราะอะไร?
เพราะท่านทั้งหลายจะรู้ เพราะว่าเราอยู่ในพระบิดา และท่านอยู่ในเรา
และเราอยู่ในท่าน พระเจ้าสถิตอยู่ในเรา และเราอยู่ในพระเจ้า เรารู้กันข้างในวิญญาณของเรา นี่คืออะไร?
นี่คือเป็นการยืนยันให้ว่าพระเจ้าอยู่กับเรา
และพระเจ้าผู้สถิตอยู่กับเรา ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเป็นใคร? พระเจ้าองค์ไหน?
เราอ่านเมื่อสักครู่นี้แล้ว และพระเจ้าผู้นี้แหละผู้ที่สัญญากับเราทุกคนบอกว่า
พระองค์จะทรงช่วยเราที่รักพระองค์ ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง
ผลอันดีในทุกสิ่ง ไม่ใช่ผลอันดีบางสิ่ง แต่ผลอันดีในทุกสิ่ง
แต่ผ่านตามทางของพระองค์ ผ่านตามวิถีทางของพระองค์
เราจะอ่านในหนังสืออิสยาห์ 55 ที่พระเจ้าบอกว่า
วิถีของพระองค์นั้น ไม่เหมือนของเรา
เราอย่าไปคิดเลย ถ้าเราคิดอย่างนี้
พระองค์จะพาไปอย่างอื่น และพระองค์มีเยอะแยะอย่าจับพระองค์ใส่กรอบ
เราไม่มีทางคิดว่าพระองค์จะมีความคิดเช่นไร?
อิสยาห์ 55:8-9
"8 เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีทางของเรา" พระเจ้าตรัสดังนี้
9 "เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราสูงกว่าทางของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น"
เพื่อให้รู้ว่าเราต้องพึ่งพระองค์
ไม่ต้องคิดอะไรเลย พระเจ้าบอก เพราะคิดอย่างไรก็ไม่มีทางถึง
เราคิดได้แค่นี้ แต่ฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกเท่าไร?
ความคิดของเรากับพระเจ้าก็ห่างกันเท่านั้น
เราคิดอย่างนี้ พระเจ้าก็คิดอย่างนั้น
เรานึกว่าใช่ที่นี่แน่ๆ ที่ก็ดี ราคาก็ถูก แน่ๆ แล้ว
เราต้องย้ายไปที่นี่แน่ๆ ในการย้ายครั้งที่ 6 ทุกอย่างวิ่งไปที่นั่นหมด และในที่สุดแป๊บเดียว
พระ เจ้าบอกโน่นมาที่นี่และดีกว่า และถูกกว่า และทุกอย่างลงตัวหมด จะเป็นอย่างนี้เสมอๆ ในชีวิตของเรา สิ่งหนึ่งที่ผมมีประสบการณ์ก็คือ เพื่อให้รู้ว่าเราต้องพึ่งพระองค์ พระเจ้าจะไม่ยอมเด็ดขาดเลย
ที่เวลาเราคิดอะไรแล้วเราก็ได้ตามที่เราคิด
เพราะเมื่อเราทำได้ตามที่เราคิด ตามกำลังของเรานั้น เราก็จะเย่อหยิ่งจองหอง
เนื่อง จากกิเลสตัณหาที่อยู่ในร่างกายของเรา เนื่องจากเชื้อของความบาปที่ยังคงทำงานอยู่ในร่างกายความคิดเก่าๆ มันทำให้เราเย่อหยิ่งจองหอง พระเจ้าจึงไม่อนุญาตให้เราสำเร็จโดยวิธีการและการทำงานของเรา
http://www.holyofholies.net/care/he_care.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น