มีเรื่องเล่าว่า นกกระจอกเทศวิ่งเร็วกว่าม้า แต่ถ้ามัน ถูกล้อมกรอบและ หมดทางหนีแล้ว มันจะมุดหัวลงไปในพื้นทรายแล้วนอนนิ่งจนกระทั่งมันถูกจับ อย่างง่ายดาย
การ เอาหัวมุดลงไปในทรายเป็นการหลอกตัวเองว่ามันพ้นภัย จากการตามล่าแล้วเพราะ มันไม่เห็นศัตรูอีกต่อไป อาการ หลอกตัวเองไม่ใช่จะมีเฉพาะในนกกระจอกเทศเท่า นั้น แต่มีอยู่ ในมนุษย์ด้วย บางคนหลอกตัวเองจนกระทั่งสับสนไปหมด ไม่ รู้ ว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร
คริสเตียนก็ตกอยู่ในการหลอกตัวเอง ได้ “แต่ท่านทั้งหลายจงเป็นคนที่ประพฤติตามพระวจนะนั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียง ผู้ฟังเท่านั้น ซึ่งเป็นการลวงตนเอง” (ยก.1:22) ท่านเคยหลอกตัวเองหรือ ไม่? ท่านเคยฟัง คำสอน คำเทศนา จากอาจารย์และศิษยาภิบาลแล้วรู้สึกชื่น ชอบ ยอมรับ และเห็น ด้วย แล้วท่านก็คิดว่าเพียงพอแล้ว ดีแล้วที่ได้ฟังคำ เทศนา ท่านคิดว่าการฟังคำเทศนาก็เท่ากับการเชื่อฟังคำเทศนา ดังกล่าว แท้ที่ จริงแล้วการฟังกับการเชื่อฟังเป็นคนละส่วนกัน แม้จะเกี่ยวข้องกันแต่ไม่ เหมือนกัน ยากอบได้เห็นอาการ หลอกตัวเองของคริสเตียนในยุคของ ท่าน (เกือบ 2,000 ปีมา แล้ว) จึงได้เตือนให้รู้ถึงอาการดังกล่าว จนถึง ปัจจุบันนี้อาการ ดังกล่าวยังมีอยู่ในท่ามกลางคริสเตียน
การเชื่อฟังคือ การฟังและประพฤติตาม ไม่ใช่เพียงแค่ การฟังอย่างเดียว พระเยซูกล่าวชมคนที่ เชื่อฟังพระองค์ ว่าเป็นคนฉลาด “เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของ เรา และประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บน ศิลา” (มธ.7:24)
จงฟังพระคำพระเจ้า แต่อย่าหยุดเพียงแค่นั้น ขอให้ ท่านอุทิศตัวที่จะเป็นผู้ปฏิบัติตามพระคำพระเจ้าที่ท่าน ได้ยินด้วย แล้ว ท่านจะรับพระพร
ค้ดลอกจาก บทความ "จากใจศิษยาภิบาล" โดย ศ.จ. มนูญศักดิ์ กมลมาตยากุล ศิษยาภิบาล คริสตจักร ใจสมาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น