
ชื่อหนังสือ เหล็กลับเหล็ก
AS Iron Sharpens Iron
ผู้เขียน โฮวาร์ด&วิลเลียม เฮนดริกซ์
ผู้แปล ปฏิมา คงสืบชาติ
ISBN 974914574-7
ราคา 155 บาท
การเติบโตฝ่ายวิญญาณในชีวิตของเราที่เห็นชัดเจนมากที่สุดเกิดขึ้นผ่านทางอิทธิพลของพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นหลักการที่มาจากพระคัมภีร์ หนังสือเล่มนี้นี้มีความลึกซึ้งและแนวปฏิบัติสำหรับความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง ซึ่งจะทำให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับการมองหาพี่เลี้ยงในแบบที่คุณต้องการ,การขยายความสัมพันธ์กับพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงของคุณ, การสร้างความสัมพันธ์ของคุณตามแบบอย่างพระคัมภีร์, การเติบโตผ่านทางสติปัญญาของผู้เชื่อคนอื่นๆ, การมีอิทธิพลต่อผู้อื่นเมื่อคุณดำเนินตามขั้นตอนพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง
ไม่ว่าคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงหรือปรารถนาอยากจะเป็นพี่เลี้ยงของใครสักคน หนังสือเล่มนี้จะบอกคุณถึงทุกๆ ขั้นตอนของการเริ่มต้นความสัมพันธ์ และให้คุณได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้ให้มากที่สุด
เกี่ยวกับผู้เขียน
โฮวาร์ด เฮนดริกซ์ เป็นอาจารย์และผู้บรรยายที่มีชื่อเสียงแห่ง Dallas Theological Seminary เขาเป็นประธานของศูนย์ผู้นำคริสเตียน ดร.เฮนดริกซ์เขียนและขัดเกลาหนังสือหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็น Heaven Help the Home,Teaching to Change Live,Husbands and Wives และหนังสือที่ขายดีที่สุดชื่อ Living by the book ท่านแต่งงานกับ จีน มีบุตรด้วยกันสี่คน วิลเลียม เฮนดริกซ์ เป็นประธานกลุ่มพัฒนาการสื่อสารของครอบครัวเฮนดริกซ์ในดัลลัส เขาเขียนและร่วมเขียนหนังสือหลายเล่มรวมทั้ง Exit Interviews, Your Work Matters to God, I Ain’t Goin’Back, Living By the Book เขาแต่งงานกับแนนซี่มีบุตรสาวสองคน
สรุปหนังสือ เหล็กลับเหล็ก
โดย วิภา ช้างชู
บทที่ 1 เป็นคนที่ถูกหมายตา
ใคร คือคนที่ช่วยให้คุณเป็นคุณในวันนี้ ที่พูดถึงนี้ไม่ใช่คนในครอบครัว คุณสามารถนึกถึงใครบางคนที่มีอิทธิพลต่อคุณและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยาว นาน และในขณะเดียวกันก็เอาชนะใจคุณด้วย ถึงแม้คุณจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรีบ้างเล็กน้อย แต่สิ่งที่คุณได้รับมีคุณค่ามากกว่าคือ ความสัมพัน์กับคนที่เอาใจใส่คุณโดยไม่เคยสนใจในตัวเอง แต่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขต่อผู้อื่นอย่างสัตย์ซื่อ เอาใจใส่ในการสอน มีความคิดสร้างสรรค์ และให้คุณมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ วิธีการสอนที่มีอิทธิพลในปัจจุบันคือ สอนถึงคุณค่าของการสื่อสารเปรียบเทียบเรื่องง่าย ๆในชีวิตประจำวันให้ผู้ฟังเข้าใจสัจธรรมฝ่ายวิญญาณที่ลึกซึ้ง เปิดโอกาสให้ผู้ฟังถามตอบ การตอบสนองต่อผู้ฟังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของวิธีสอน ทุกวันนี้มีแต่คนที่ต้องการคนที่จะมาช่วยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาแก่เขา มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่คนแสวงหาคนนำทาง ใครคือคนที่ช่วยให้คุณกลายเป็นคนในปัจจุบัน ใครคือพี่เลี้ยงของคุณ เขาทำอะไรให้คุณบ้าง คุณจะขาดอะไรในชีวิตถ้าคุณไม่มีเขา เมื่อคุณนึกถึงคนเหล่านี้และอิทธิพลที่เขามีต่อคุณ คุณก็จะตระหนักได้ว่า ความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญ การเป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงไม่มีความจำกัดด้านอายุหรือประสบการณ์ ถ้าคุณเต็มใจที่จะให้คนอื่นนำเหมือนที่คุณรับผิดชอบต่อการพัฒนาส่วนตัวของ คุณเองละก็ คุณก็เป็นผู้สมัครคนสำคัญของการเป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง
บทที่ 2 ผมเชื่อในตัวคุณ
คุณ ค่าของระบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงมาจากคุณค่าของความสัมพันธ์ พี่เลี้ยงควรสนใจในตัวน้องลี้ยง อยู่เคียงข้างเขาเมื่อเขามีปัญหา คอยถามทุกข์สุข โทรไปหาเขาคอยช่วยเหลือเขา เชื่อมั่นในตัวเขาให้โอกาสเขา เขาจะรักคุณและไม่ยอมให้คุณหลุดมือไปเลย อำนาจของความสัมพันธ์สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้ พี่เลี้ยงจะมีอิทธพลต่อน้องเลี้ยงเมื่อพี่เลี้ยงใช้ชีวิตวันต่อวันกับน้อง เลี้ยง
ประโยชน์ของการมีพี่เลี้ยง
1. เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
2. เป็นต้นแบบให้เขาเดินตาม
3. ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. มีบทบาทในแผนการของพระเจ้าด้านการเจริญเติบโตของน้องเลี้ยง
5. มีประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ ในชีวิตของคุณ
พี่ เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ คุณควรตัดสินใจเสียแต่ตอนนี้ที่จะมองหาพี่เลี้ยง คนที่จะช่วยดูแลให้คุณเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายในชีวิต คนที่แสวงหาความช่วยเหลือจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง
บทที่ 3 รู้ตัวว่าต้องการอะไร
เรา ต้องรู้ตัวว่าเราต้องการอะไร คนเรามักไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร และอีกนัยหนึ่งก็คือ เราไม่สามารถมองตัวเองอย่างไม่มีใจลำเอียงได้ นี่คือเหตุผลที่การมีพี่เลี้ยงเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์ เพราะพี่เลี้ยงไม่เพียงแต่จะช่วยนำเราให้มองเห็นตัวเอง แต่เขายังสามารถช่วยให้เรานำข้อมูลเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ได้และสามารถจูงใจ ให้เราลงมือ
กระทำและช่วยควบคุมเราในสิ่งที่เราทำและสิ่งที่เราไม่ได้กระทำ เราต้องค้นหาความต้องการของเราว่า
1. เราต้องการอะไร อีกสัปดาห์ข้างหน้าเราอยากให้ชีวิตของเราเป็นอย่างไร สิ่งที่เราต้องการที่สุดคืออไร สิ่งที่เราคิดถึงบ่อยที่สุด วิธีการใช้เงินของเรา สิ่งที่เราทำเมื่อเราว่าง เพื่อนที่เราชอบ เป้าหมายจะช่วยสะท้อนให้เราเห็นว่าเราต้องการอะไร
2. คุณจะทุ่มเทแค่ไหน คุณต้องตั้งเป้าหมายและให้ความสำคัญกับเป้าหมายนั้น พยายามและทุ่มเททำตามคำแนะนำของพี่เลี้ยง
3. คุณจะวางแผนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายได้อย่างไร ให้พี่เลี้ยงช่วยแนะนำและให้เขามีส่วนร่วมในแผนการของคุณ
4. อะไรเป็นแรงผลักดันคุณ คุณควรจะเอาใจใส่กับสิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้คุณ
5. คุณเรียนรู้อย่างไร วิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณเป็นปัจจัยที่กำหนดว่าคุณควรจะมี พี่เลี้ยงแบบใดที่จะสามารถช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้
บทที่ 4 พี่เลี้ยงมองหาอะไร
กระบวน การคัดเลือก ลักษณะของน้องเลี้ยงคำถาม 5 ประการต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงลักษณะของน้องเลี้ยง และขณะที่คุณอ่านคำถามคุณควรจะถามตังเองด้วยว่า เราจะมีลักษณะแบบนี้ได้อย่างไร
1. เขาเป็นคนมุ่งมั่นสู่เป้าหมายหรือเปล่า ถ้าคุณพบคนที่ตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นอย่างดี คุณก็จะพบคนที่กำลังก้าวไปสู่ความสำเร็จ
2. เขามองหาสิ่งที่ท้าทายและความรับผิดชอบที่สูงขึ้นหรือไม่
3. เขาเป็นคนมีความคิดริเริ่มหรือไม่ ลงมือทำ อย่านั่งที่เส้นต่อ จงฉวยโอกาสในทุกวันของชีวิต
4. เขาเป็นคนใฝ่เรียนหรือไม่ คนที่จะเป็นผู้นำได้จะต้องเต็มใจที่จะได้รับการอบรม เรียนรู้ทุกอย่างที่จำเป็น
5. เขาเต็มใจที่จะรับผิดชอบต่อการเจริญเติมโตและพัฒนาการของเขาหรือไม่
บทที่ 5 ลักษณะที่ดีของพี่เลี้ยง
ลักษณะ 10 ประการของพี่เลี้ยง
1. พี่เลี้ยงที่ดีต้องมีในสิ่งที่คุณไม่มี คุณต้องมองหาคนที่มีดีไม่ใช่คนที่ดูดีเท่านั้น
2. พี่เลี้ยงที่ดีเสริมสร้างความสัมพันธ์ ต้องเสียสละ มีความสามารถสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์
3. พี่เลี้ยงที่ดีเต็มใจที่จะเสี่ยงกับคุณ จงพิจารณาดูว่าเขาเต็มใจที่จะเสี่ยงกับคุณเพื่อช่วยให้คุณเป็นคนที่พระเจ้าทรง
ตั้งพระทัยไว้หรือไม่
4. พี่เลี้ยงที่ดีต้องเป็นคนที่คริสเตียนคนอื่นนับถือ ต้องเป็นคนที่ดำเนินชีวิตให้สมกับความเชื่อที่เขาประกาศว่ามี
5. พี่เลี้ยงที่ดีมีเครือข่ายข้อมูลและความช่วยเหลือมากมาย
6. พี่เลี้ยงที่ดีมีคนมารับคำปรึกษา
7. พี่เลี้ยงที่ดีเป็นคนที่มีทั้งการพูดและการฟัง
8. พี่เลี้ยงที่ดีเป็นคนสม่ำเสมอ
9. พี่เลี้ยงที่ดีวินิจฉัยจนรู้ว่าคุณมีความต้องการอะไร
10. พี่เลี้ยงที่ดีเป็นห่วงและหวังดีต่อคุณ
บทที่ 6 เราจะหาพี่เลี้ยงได้ที่ไหน
หลายคนได้รับการทรงเรียก แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ถูกเลือก สถานที่ที่คุณสามารถมองหาพี่เลี้ยงมันอาจจะเป็น
เหมือน เส้นผมบังภูเขา เพราะพี่เลี้ยงอยู่รอบตัวคุณ ถ้าคุณจะมองให้เห็น คุณต้องเป็นเหมือนนักล่าสัตว์ในป่า ที่รู้ว่าตัวเองมองหาอะไรและรู้ว่าจะมองหาที่ไหน ถ้าเป็นไปได้ตัวเลือกพี่เลี้ยงตัวแรกของคุณควรจะเป็นคริสเตียนที่สามารถ ท้าทายคุณเกี่ยวกับพื้นฐานในพระคัมภีร์ แต่เมื่อคนที่ไม่เป็นคริสเตียนที่มีคุณสมบัติดีก็อย่าพึ่งคัดเขาออกเพียง เพราะเขาไม่ได้เป็นคริสเตียน เขาอาจจะทำให้ความเชื่อของคุณกระปี้กระเป่ามากขึ้น และคุณจะพบว่าความสัมพันธ์ของคุณทำให้เขาคิดถึงความต้องการฝ่ายวิญญาณของเขา ก็ได้
คุณ ควรอธิษฐานเผื่อพี่เลี้ยง ให้พระเจ้าทรงนำคุณให้พบกับคนที่มีอิทธิพลในชีวิตของคุณ เริ่มมองหา เปิดตาของคุณดูว่ารอบตัวของคุณมีใครบ้าง
ติดต่อ ความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง เริ่มต้นด้วยการติดต่อพูดคุย ความสัมพันธ์จะเจริญขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างก็สนใจและเป็นห่วงกันและกัน สนใจเกี่ยวกับตัวเขา ศึกษาว่าเขาเป็นคนอย่างไร ไม่ยากเกินกว่าที่เราจะมองหา
บทที่ 7 ก้าวแรก
มี สถานที่หลายแห่งที่คุณสามารถมองหาพี่เลี้ยงได้ แต่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับเขา คุณรู้จักเขามากแค่ไหนจะเป็นตัวกำหนดก้าวต่อไปของคุณ
20 วิธีในการเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง
1. โทรศัพท์ไปหานัดพบเขา
2. นัดพบแบบขอไปด้วย
3. ให้คนอื่นแนะนำ
4. ยกย่องความสามารถของเขา แล้วขอให้เขาช่วยสอนคุณบ้าง
5. ขอเข้าร่วมทีมหรือโครงการของเขา
6. เสนอวิธีแก้ไขปัญหาให้เขา
7. หยิบยื่นโอกาสที่น่าสนใจที่คุณมีให้เขา
8. นำข้อมูลที่เขาน่าจะสนใจมาให้เขา
9. ขอให้เขาอ่านสิ่งที่คุณเขียนและออกความคิดเห็น
10. ตอบสนองต่อสิ่งที่เขาทำ
11. ขอให้เขาเล่าถึงพี่เลี่ยงของเขา
12. สัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับโครงการที่คุณกำลังทำอยู่หรือที่เขากำลังทำอยู่
13. สิ่งที่คุณทำขึ้นเช่น หนังสือ ผลิตภันฑ์ รูปภาพ และเขียนโน้ตขอบคุณเขาสำหรับแรงดลใจ
14. ให้เกียรติเขาต่อหน้าคนอื่น
15. ฉวยโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเขาทันทีที่เขาเสนอ
16. ถ้าเขาเสนอให้คุณนัดเจอเขา คุณก็ควรรับข้อเสนอนั้น
17. ขอความช่วยเหลือจากเขาก่อนที่คุณจะต้องการความช่วยเหลือ
18. บอกเขาถึงความเป็นไปในชีวิตของคุณเป็นระยะ ๆ
19. รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
20. อธิษฐานเผื่อพี่เลี้ยง
และ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ คำว่าพี่เลี้ยงหรือเลี้ยงดู หลายคนจะรู้สึกกลัวถ้าคุณใช้คำว่าพี่เลี้ยง สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องพัฒนาความสัมพันธ์ของคุณกับน้องลี้ยง อย่าจดจ่ออยู่ที่การตอบสนองที่คุณได้รับจากคนที่อาจจะเป็นพี่เลี้ยงของคุณ
บทที่ 8 ยุทธวิธีเพื่อการเจริญเติบโต
ความ สัมพันธ์ที่มีเป้าหมาย สิ่งที่คุณอยากจะพัฒนาปัญหาความต้องการของคุณ การกำหนดแผนการเป็นกุญแจสำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานของความคาดหวังจากทั้งสองฝ่าย
พี่เลี้ยงน้องเลี้ยงแบบไม่เป็นทางการและเป็นทางการ ความสัมพันธ์แบบที่เป็นทางการมักจะมีกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการรวมอยู่ด้วย ส่วนความสัมพันธ์แบบที่ไม่เป็นทางการอาจจะใช้ยุทธวิธีเพื่อพัฒนาการที่เป็น ทางการ ความสัมพันธ์ทั้งสองแบบนี้มีดีเท่ากัน แต่มีความคาดหวังต่างกัน คุณควรจะมุ่งพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป คุณอาจจะต้องเพิ่มความคาดหวังของคุณ คุณต้องคิดถึงความแตกต่างระหว่างพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงแบบเป็นทางการและไม่ เป็นทางการกับปัญหาเฉพาะหน้าและกับปัญหาระยะยาว และสัญญาณการเรียนรู้จะช่วยให้ทุกคนมีความชัดเจนทั้งเรื่องกิจกรรม
ความคาดหวังและการทดสอบความก้าวหน้า สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถกระทำเพื่อการเจริญเติบโตส่วนตัวและฝ่ายวิญญาณคือ การพัฒนาทักษะในการสื่อสารของคุณ
บทที่ 9 ระวังคนงานกำลังทำงาน
เมื่อ เรามีปฏิสัมพันธ์กับใคร จุดบกพร่องที่ยังไม่ถูกสร้างขึ้นของเราก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่อคนอื่น ได้ ดังนั้นเราจึงต้องระวังให้มาก คุณอาจจะคาดหวังจากพี่เลี้ยงมากกว่าที่เขาจะสามารถให้ได้ หรือเขาอาจจะเรียกร้องจากคุณมากกว่าที่คุณจะทำได้ วิธีหลีกเลี่ยงความผิดหวังที่ดีที่สุดคือ การพูดคุยกันอย่างชัดเจนตั่งแต่แรก ถ้าบุคคลที่คุณยกย่องอย่างสูงทำให้คุณผิดหวัง คุณต้องตอบสนองด้วยวิถีทางแบบพระคริสต์และก้าวต่อไป อธิษฐานเผื่อเขาให้พระเจ้าทำงานในชีวิตของเขา คุณต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของเขา และอย่าให้ปัญหาเรื่องการบงการชีวิตเกิดขึ้น อย่าให้เขามาบงการชีวิตของคุณและใช้คุณเพื่อให้แผนการของเขาสำเร็จ อย่าเป็นหุ่นเชิดให้เขา เมื่อคุณยอมอยู่ใต้อิทธิพลของใครบางคน คุณก็ควรจะตั้งเป้าหมายที่มีขีดจำกัด อย่ากลัวที่จะตรวจสอบสิ่งที่พี่เลี้ยงพูดหรือกระทำโดยการปรึกษาคนที่ไว้ใจ ได้ และวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องการบงการชีวิตคือ การประเมินผลคนที่อาจจะเป็นพี่เลี้ยงของคุณก่อนที่คุณจะเริ่มความสัมพันธ์ กับเขา เราต้องดำเนินชีวิตด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง
บทที่ 10 ยอมรับหน้าที่รับผิดชอบ
กุญแจ สู่การเจริญเติบโต ถ้าคุณไม่ได้เติบโตเลย คุณอาจจะต้องมองหาพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของคุณ ทั้งฝ่ายวิญญาณส่วนตัวและอาชีพการงาน ความสัมพันธ์แบบนี้อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณโดยอัตโนมัติ แต่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อเป้าหมายนั้น กระบวนการของการเจริญเติบโต ทันทีที่คุณหยุดโต คุณกำลังตาย คุณควรถามตัวเองว่าคุณทุ่มเทเพื่อจะเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตหรือไม่ ขั้นตอนการเจริญเติบโตแต่ละช่วงมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ความรู้เท่านั้น แต่เป็นการเชื่อฟังอย่างสม่ำเสมอ และความรู้ที่คุณประยุกต์ใช้ในชีวิตต่างหากที่สำคัญ ความรับผิดชอบของคุณที่คุณควรทำคือ หาพี่เลี้ยง ทำให้ความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงซึมซาบเป็นวิถีชีวิต คุณจำเป็นจะต้องมองหาพี่เลี้ยงที่รักพระเจ้าอยู่เสมอ พี่เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงแหล่งความช่วยเหลือเดียวที่พระเจ้าจะใช้นำคุณสู่ ความเป็นผู้ใหญ่ แต่พระเจ้าใช้ปัจจัยหลายอย่างในชีวิตของคุณ คุณควรเป็นพี่เลี้ยงให้คนอื่น และหาพี่เลี้ยงให้ลูกของคุณ คุณสามารถเสริมสร้างชีวิตคนอื่นได้ ใช้เวลากับเขา หนุนในเขา อยู่เคียงข้างเขาเมื่อเขาเผชิญความทุกข์ยากลำบาก อธิษฐานกับเขาและอธิษฐานเผื่อเขา
บทที่ 11 พระเจ้าเรียกให้เป็นพี่เลี้ยง
เบื้อง หลังของเปาโลมีบารนาบัสเป็นพี่เลี้ยง เขาได้กระทำพันธกิจแห่งการทวีคูณ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเสริมสร้างชีวิตของคนอื่นอีกคนหนึ่ง คุณได้เริ่มกระบวนการที่ไม่มีวันจบสิ้น คุณจำเป็นต้องมีพันธกิจแห่งการทวีคูณ คุณจำเป็นต้องมีผู้นำคริสตจักร ผู้นำในสังคม ถ้าคุณจะผลิตเปาโลขึ้นในโลกนี้ คุณต้องหาบารนาบัส ถามตัวคุณเองว่าคุณต้องการรับบทบาทนี้ไหม บทบาทพี่เลี้ยง
คนที่มีอิทธิพล การยอมให้ชีวิตของเราอยู่ภายใต้การนำของพระเยซูคริสต์ และมีอิทธิพลกับคนที่พระเจ้าทรงนำเข้ามาในชีวิตของเรา บางครั้งเราอาจจะไม่มีอิทธิพลต่อทุกคน แต่อย่างน้อยก็เป็นอิทธิพลต่อคนบางคน หลายคนอาจจะไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเพราะ ไม่อยากสนใจหรือคิดว่าตัวเองไม่ดีพอหรือไม่เคยมีใครมาขอร้องและไม่รู้จะทำ อย่างไร แต่การเป็นพี่เลี้ยงเกิดขึ้นรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา เราเพียงแต่มองไม่เห็น ถ้าเรารู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นและรู้ว่ากระบวนการเป็นพี่เลี้ยงดำเนินไปอย่าง ไร เราก็จะสามารถเป็นอิทธิพลต่อคนอื่นและทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองมากขึ้น ด้วย ถามตัวเองว่าคุณเต็มใจที่จะลองดูไหม
บทที่ 12 ทำไมจึงควรเป็นพี่เลี้ยง
เรา ควรจะเปิดโอกาสให้ตัวเองมีอิทธิพลต่อผู้อื่นที่อยู่รอบตัวเรา เราอาจจะคิดว่าการเป็นพี่เลี้ยงเป็นเหมือนกับถนนที่ไปได้ทางเดียวและผล ประโยชน์จะตกแก่น้องเลี้ยงทั้งหมด จริง ๆแล้วไม่ใช่ พระเจ้าทรงสร้างรางวัลให้แก่พี่เลี้ยง ในกระบวนการพี่เลี้ยงน้องเลี้ยง ที่จะทำให้เขาชื่นใจอย่างที่สุด และไม่มีความผิดที่เราจะหาความชื่นใจเช่นนั้น
ประโยชน์ของการเป็นพี่เลี้ยง
1. ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอีกคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ที่ทุ่มเทจริงใจต่อกัน นำมาซึ่งความชื่นชมยินดีและเป็น
ประโยชน์อย่างที่สุด มันเป็นสิ่งมีค่าเพียงพอที่เราจะพยายาม
2. การฟื้นใจใหม่และรับกำลังใหม่ กระบวนการนี้เสริมสร้างคนหนุ่มให้เป็นผู้ใหญ่และช่วยให้คนมีอายุมีกำลังขึ้น
ใหม่อีกครั้ง เพราะเราเจริญเติบโตมากที่สุดในกระบวนการที่ช่วยให้คนอื่นโต
3. ความรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ การเห็นน้องเลี้ยงของเราทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกเขาให้กระทำอย่าง
ยอดเยี่ยม เมื่อพวกเขาทำสำเร็จเราก็ประสบความสำเร็จ เมื่อพวกเขาชนะได้รับคำสรรเสริญยกย่องเราก็จะรู้สึก
ภูมิใจ เพราะว่าเราได้มีส่วนในการช่วยเขา
4. ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า การดูแลเอาใจใส่จะช่วยให้เขามีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นแทนที่จะเสื่อมถอย ไม่มี
อะไรช่วยให้เรามองตังเองดีขึ้นเท่ากับการที่รู้ว่ามีคนคอยเป็นห่วงเป็นใยและสนใจในสิ่งที่เราทำและพูด
5. ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี การเป็นพี่เลี้ยงเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย เพราะทำให้เรา
คิดไม่ใช่เพื่อได้มา แต่เพื่อใช้ทรัพยากรฝ่ายวิญญาณช่วยเหลือคนอื่น เป็นการเสริมสร้างและก่อให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป
บทที่ 13 พี่เลี้ยงทำอะไร
เรา จะเป็นพี่เลี้ยงได้อย่างไร มีวิธีหลายอย่างแต่อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เราอาจจะรู้ว่าเรามีอะไร แต่เราอาจจะไม่รู้ว่าเราจะใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อจะมีอิทธิพลต่อคนอื่นอย่าง ไร
ความสัมพันธ์เป็นตัวให้คำจำกัดความคำว่าพี่เลี้ยง
1. พี่เลี้ยงเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสาร
2. พี่เลี้ยงมีสติปัญญารู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
3. พี่เลี้ยงช่วยพัฒนาทักษะและพฤติกรรมที่มีประสิทธิภาพ
4. พี่เลี้ยงเสนอความคิดเห็น อธิบายความหมาย
5. พี่เลี้ยงเป็นโค้ช
6. พี่เลี้ยงเป็นกระดานเสียง
7. พี่เลี้ยงเป็นคนที่น้องเลี้ยงหันเข้าหาในเวลาที่เขามีปัญหา
8. พี่เลี้ยงช่วยวางแผน ให้มุมมองและคำแนะนำที่ปฏิบัติได้
9. พี่เลี้ยง เลี้ยงดูเราด้วยความเอาใจใส่
มุม มองของน้องเลี้ยงเป็นสิ่งที่กำหนดความสัมพันธ์ แล้วคุณละคุณพร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงไหม คำตอบของคุณจะช่วยให้คุณมีทิศทางและจะช่วยให้คุณสามารถประเมินว่าคุณสามารถ ทำอะไรให้น้องเลี้ยงได้บ้างและมีอะไรที่คุณควรจะระมัดระวัง คุณต้องมุ่งสู่เป้าหมายที่สูงกว่า เรามีจุดเด่นและจุดด้อย จุดด้อยเหล่านั้นไม่ควรจะเป็นอุปสรรคขวางกั้นเราไม่ให้เป็นพี่เลี้ยง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น