หวัดดีค่า...
เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสไปทานข้าวกับศิษยาภิบาลท่านหนึ่ง ช่วงหนึ่งของการสนทนาท่านได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกคู่ชีวิตในมุมมอง ที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน ก็เลยอยากเอามาแบ่งปันสำหรับคนโสดทั้งหลายค่ะ
คริสเตียนควรเลือกคนแบบไหนมาแต่งงาน??
ใช่คนที่เราเรียกกันว่ามนุษย์ฝ่ายวิญญาณรึป่าว? หมายถึงคนที่เทศนาเป็นไฟ รู้พระคัมภีร์แม่นยำ นำนมัสการเก่ง ร่วมรับใช้ในหลายพันธกิจ ทำ หมายสำคัญและการอัศจรรย์ ฯลฯ แต่หากคนๆ เดียวที่กล่าวถึงนี้ ไม่เคยรับผิดชอบครอบครัวเลยหล่ะ ไม่เคยส่งเงินให้ที่บ้าน ไม่ทำงาน ไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตตัวเอง หรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึก ไม่มีผลของพระวิญญาณ เป็นคนที่ดู Holy แต่ลึกๆ แล้วไม่มีความรัก รับใช้ด้วยท่าทีในใจที่ไม่ถูกต้อง คนแบบนี้หรือเปล่าที่เราควรเลือกมาเป็นคู่ชีวิต? ระวังอย่าหลงประเด็น เราต้องสังเกตชีวิตของเขาทั้งสองด้าน ทั้งฝ่ายวิญญาณ (จับต้องไม่ได้) และฝ่ายโลก (จับต้องได้ มองเห็น) ดู การปฏิบัติทั้งต่อคนอื่น ต่อคนในครอบครัว และกับตัวเราเอง ดูว่าเค้าปฏิบัติต่อคนอื่นยังไง กับคนในครอบครัวยังไง เค้าให้เกียรติเรามั๊ย ล่วงเกินเราหรือเปล่า ถ้าตอนคบกันยังไม่ให้เกียรติ แล้วต่อไปเมื่อแต่งงานจะเป็นยังไง?? คนที่ไม่รับใช้พระเจ้าใน โบสถ์ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นคนฝ่ายวิญญาณ พระเจ้าทรงใช้แต่ละคนแตกต่างกันตามของประทาน มีนักธุรกิจมากมายที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จและถวายเงินเพื่องานของพระเจ้า ผิดมั๊ยที่เค้าไม่ได้เทศนาหรือนำนมัสการหรือสอนพระคัมภีร์? จากสถิติพบว่าผู้เชื่อที่มีความรับผิดชอบที่ดีต่อตนเองและครอบครัว มีโอกาสสูงที่เขาจะพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในอนาคต แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องแต่งงานกับคนที่มีความเชื่อเดียวกัน แม้อาจมีแตกต่างกันบ้างในรายละเอียดก็ไม่เป็นไร แต่หากเราแต่งงานกับคนต่างความเชื่อ ซึ่งเค้ายังกราบไหว้รูปเคารพ เค้ายังไม่ได้รับการชำระจากความบาป ก็จะมีความสกปรก โรคภัย และคำแช่งสาปที่จะถูกถ่ายทอดเข้ามาในชีวิตของเราและลูกหลาน เพราะการแต่งงานคือการกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งเป็นปัญหา ที่จะต้องตามแก้ไขกันต่อไป และหากคู่ชีวิตของเราไม่ยอมกลับใจ เราก็ต้องอยู่กับคนที่เดินคนละทาง คิดคนละแบบกับเราไปตลอดชีวิต
เราคาดหวังอะไรจากการแต่งงาน?? เรา คาดหวังการพึ่งพาทางด้านอารมณ์ความรู้สึก หรือแค่อยากมีคนไว้คอยปรึกษาเวลามีปัญหา หรือต้องการพึ่งพาทางด้านเศรษฐกิจ หรือต้องการคนที่เราจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในฝ่ายจิตวิญญาณหรือแค่จะได้ ไม่ต้องรำคาญเวลามีคนมาถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน ฯลฯ เราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า ทำไมจึงอยากแต่งงาน เพื่อเราจะได้ไม่พลาดเป้าหมายที่แท้จริงที่พระเจ้าทรงวางไว้สำหรับการแต่ง งาน เรามาดูกันว่าพระเจ้าทรงมีทัศนะอย่างไรต่อการแต่งงาน (จากหนังสือ “จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครที่ฉันควรแต่งงานด้วย? ซึ่งอิชั้นได้รับอภินันทนาการจากศิษยาภิบาลใจดีท่านนี้ เพราะท่านเห็นอิชั้นตั้งใจฟังมากนั่นเอง) ^^
“พระ เจ้าทรงออกแบบให้การแต่งงานเป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและดี ที่สุด ชายและหญิงถูกสร้างให้ส่งเสริมกันและกันทั้งในด้านร่างกาย จิตวิญญาณ อารมณ์ ความปรารถนา และความต้องการทางสังคม ภายใต้ความสัมพันธ์พิเศษที่เรียกว่า การแต่งงาน (ปฐก.2:18-25) ความเป็นหนึ่งของทั้งสองนั้นมีมากกว่าเพียงแค่พฤติกรรมทางเพศ แต่เป็นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องเป้าหมาย จิตใจ และจิตวิญญาณ คู่แต่งงานที่เราเลือกต้องเป็นคนที่จะเติมเต็มความต้องการของเรา และต้องเป็นคนที่เราสามารถเติมความต้องการของเขาได้ด้วยความยินดี”
ด้านล่างนี้จะเป็นบางส่วนจากหนังสือที่คัดมาให้อ่านกันค่ะ
************************************************** 
1. เลือกคนที่เชื่อพระเจ้า – สำหรับการแต่งงานนั้นไม่มีสิ่งใดที่สำคัญมากยิ่งไปกว่า ความผาสุกในฝ่ายวิญญาณ ดูตัวอย่างจากอับราฮัมที่ส่งคนรับใช้ให้เดินทางไปแสนไกลเพื่อหาผู้หญิงที่มี ความเชื่อเดียวกันให้กับลูกชายของเขา ในพระคำของพระเจ้าก็บอกไว้อย่างชัดเจนไม่ให้เราเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่ เชื่อ ความเชื่อนั้นส่งผลต่อการจัดลำดับก่อนหลังของเรา เป้าหมายของเรา วิถีชีวิตของเรา และความสัมพันธ์ของเรา (ฉธบ.7:3-4, 1พกษ 11:4, อสร.9-10, นหม.13:23-27) การแต่งงานกับคนที่ไม่เชื่ออาจประสบความเหนื่อยล้าฝ่ายวิญญาณตลอดชีวิตการ แต่งงาน อีกทั้งต้องต่อสู้เพื่อชีวิตฝ่ายวิญญาณที่ดีของลูกๆ ด้วย
** อย่าปล่อยให้ความรู้สึกของเราเหยียบย่ำความสัมพันธ์ของเรากับองค์พระผู้เป็นเจ้า** 2. เชื่อวางใจพระเจ้า – เวลาของพระองค์นั้นดีที่สุด แต่การรอคอยนั้นก็เป็นเรื่องแสนยาก ขณะเดียวกันเราก็มีความมั่นใจได้ว่า ชีวิตของเราอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า ตราบเท่าที่เราดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ ยอมจำนน และเชื่อฟัง เราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดจากทิศทางที่พระเจ้าทรงนำ (มธ.6:33) แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าการรอคอยไม่มีวันสิ้นสุด แต่ความล่าช้าที่เราประสบอยู่นั้นก็เพื่อผลดีแก่เรา หลายคนมีอาการตื่นตระหนกเนื่องจากความอาวุโสหรือตกพุ่มม่าย ซึ่งอาจทำให้หลายคนลงเอยด้วยการหาคู่แต่งงานที่เข้ากันได้อย่างลวกๆ เพื่อสนองความปรารถนาที่จะแต่งงานของตน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า การทำเช่นนั้นเป็นอันตรายที่สุด อย่าสูญเสียความอดทนและหลงไปจากการแสวงหาพระเจ้า ด้วยการใช้ความพยายามเสาะแสวงหาคนที่จะแต่งงานด้วย ให้เราฝึกที่จะไว้วางใจพระองค์ในการตัดสินใจในเรื่องเล็กๆ วันต่อวัน เรียนรู้ที่จะพึ่งพาพระองค์เสมอ อยู่ในที่ซึ่งพระเจ้าจะทรงสามารถให้คำแนะนำในขั้นตอนต่อๆ ไป และคาดหวังการทรงนำจากพระองค์
เรา จะคาดหวังให้พระองค์นำเราไปพบคู่คริสเตียนที่ดีได้อย่างไร หากเราไปไหนมาไหนกับคนที่ชื่อเสียงไม่ดี หากเรามีความสัมพันธ์ทางเพศก่อนแต่งงานกับบรรดาคนที่เราคบด้วย หากเรายังละเลยเวลาที่จะอธิษฐานและนมัสการส่วนตัว หรือหากเรายังหมกมุ่นอยู่ในท่าทีแห่งความบาป เราคาดหวังไม่ได้เลยว่าพระเจ้าจะทรงช่วยในการเลือกคู่ หากเรายังใช้ชีวิตโดยไม่ยอมเชื่อฟังในทุกเรื่องที่รู้ว่าเป็นพระประสงค์ของ พระองค์
**อย่าหวังการทรงนำของพระเจ้าสำหรับวันพรุ่งนี้ หากไม่ได้ติดตามพระองค์ในวันนี้** เรา จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าในการเลือกคู่ แม้พระองค์จะทรงให้เสรีภาพแก่เรา พวกเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยตระหนักว่ากำลังพาตัวเองเข้าสู่อะไร เราจำเป็นต้องให้พระเจ้าทรงช่วยเตรียมเราให้พร้อมสำหรับการแต่งงาน และช่วยเราเลือกคนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด (ยก.1:5, สภษ.1:7, สภษ.2:1-11)
พระ วิญญาณบริสุทธิ์จะไม่ขัดแย้งกับพระบัญชาที่ชัดเจนในพระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะไม่ทรงบอกให้เราเลือกแต่งงานกับคนที่ไม่เชื่อ จะไม่ทรงนำให้เราแต่งงานเพื่อเงิน หรือจะไม่ทรงนำให้เราแต่งงานโดยขัดแย้งกับหลักการในเรื่องสติปัญญา พระวิญญาณจะนำเราเมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์ และพระองค์จะให้เราไวต่อสิ่งที่ถูกหรือผิดในเรื่องความสัมพันธ์ แรงผลักดันภายในที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะสอดคล้องกับความจริงและปัญญา จากพระเจ้าเสมอ
? ความไว้วางใจพระเจ้าของเราอยู่ในระดับใด? ? เราเคยใช้เวลาอธิษฐานว่าจะแต่งงานกับใครหรือไม่? ? เรามีชีวิตที่เชื่อฟังพระเจ้าและเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์หรือเปล่า? ? เราเรียนรู้เคล็ดลับของความพึงพอใจ ไม่ว่าจะโสดหรือแต่งงานหรือไม่? (ฟป.4:11-13) 3. พิจารณาคุณลักษณะ – เราจำเป็นต้องแน่ใจว่าคนที่เราเลือกจะแต่งงานด้วย มีคุณสมบัติเหมาะที่จะเป็นสามีภรรยาของเรา ไม่ได้หมายความว่าเราต้องแจกแบบทดสอบให้กับทุกคนที่เราคบ แต่หมายความว่า เราควรจะใส่ใจอย่างยิ่งต่อลักษณะนิสัยที่เราปรารถนาในคู่ชีวิต และมีเรื่องใดที่เราควรต้องตรวจตราเป็นพิเศษ ให้เรามาพิจารณาคุณลักษณะที่จำเป็นดังต่อไปนี้
? ความถ่อมใจและความเต็มใจที่จะปรนนิบัติ – เป็นคนที่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างดี เต็มใจที่จะสมาคมกับคนที่มีตำแหน่งต่ำกว่า และเต็มใจที่ปรนนิบัติเรา (ยน.13:-7, รม.12-16) ? ความบริสุทธิ์ทางเพศ – ความ สัมพันธ์ทางเพศถูกออกแบบไว้สำหรับการแต่งงานเท่านั้น แต่หากเราเป็นคนที่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศมาในอดีต เราจำเป็นต้องจัดการกับแผลเป็นทางอารมณ์ในเรื่องกิจกรรมทางเพศเหล่านั้น และโดยพระคุณและพระเมตตาของพระเจ้า ทุกคนสามารถได้รับการอภัยและรับการชำระให้บริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์โดยพระ คริสต์ (2ซมอ.12:13, 1ยน.1:9, รม.13:13, ฮบ.13:4) ? การอุทิศตัวเพื่อพระคริสต์ – เราควรจะยอมรับเฉพาะผู้เชื่อที่ไวในฝ่ายจิตวิญญาต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ (2คร.6:14-18, อฟ.4:17-5:20, ฟป.3:7-16, 1ยน.2:15-17) ? ลำดับความสำคัญที่ถูกต้อง – คนที่เราจะเลือกไม่ควรเป็นคนเห็นแก่เงิน ความสนุกสนาน หรือชื่อเสียง (ปญจ.2:1-11, 5:8-17, 6:1-12, มธ.6:33, รม.12:2, 1ทธ.6:10, ฮบ.13:5) ? ความเชื่อที่ถูกต้อง – อย่า แต่งงานกับคนนอกรีต เราไม่จำเป็นต้องมีความเห็นตรงกันในทุกเรื่อง แต่ต้องแน่ใจว่าเรามีความเห็นตรงกันบนพื้นฐานของพระคัมภีร์ในเรื่องหลักข้อ เชื่อที่ถูกต้อง (1ยน.4:1-6) ? ความผูกพันกับคริสตจักร – พระ เจ้ามิได้ตั้งพระทัยให้ชีวิตคริสเตียนเป็นเกมที่เล่นได้คนเดียว แต่ได้ทรงกำหนดให้คริสตจักรตอบสนองความต้องการของเรา และให้เราปรนนิบัติกันและกัน คู่ชีวิตของเราควรเห็นด้วยร่วมกันกับเราในเรื่องนี้ (อฟ.4:116, ฮบ.10:24-25) ? ท่าทีที่มีความรัก – อย่า แต่งงานกับคนอารมณ์บูดบึ้ง แต่หลายคนก็ซ่อนบุคลิกที่แท้จริงไว้และใช้เสน่ห์ในเรื่องอื่นๆ มากลบเกลื่อน จงพิจารณาความสัมพันธ์ของเรากับอีกฝ่ายว่าเข้ากันได้แค่ไหน เราทะเลาะกันบ่อยเกินไปหรือเปล่า เรารู้สึกว่าถูกล่วงเกินด้วยวาจาและอารมณ์หรือเปล่า (สภษ.19:13, 21:9,19) ? การรู้จักบังคับตน – คู่ ครองในอนาคตของเราควบคุมตัวเองเมื่อโกรธได้หรือไม่ เขาหรือเธอติดแอลกอฮอล์ ยาเสพติด อาหาร เรื่องเพศ งาน กีฬา หรือการซื้อของโดยไม่คิดหรือเปล่า (สภษ.23:20-21, 25:28, กท.5:22-23, อฟ.5:15-18) ? ความซื่อตรง – ถ้าใครคนหนึ่งรักเรา เขาจะแสดงออกถึงความรักนั้นด้วยคำพูดที่ซื่อตรง (สภษ.24:26) ? ความงดงามภายใน – ความ งดงามเป็นเปลือกที่ห่อหุ้ม แต่คุณภาพชีวิตนั้นอยู่ลึกถึงกระดูก เราควรหาคู่ที่เด่นสะดุดตาสำหรับเรา แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความเด่นสะดุดตาภายใน (1ซมอ.16:7, สภษ.11:22, 31ซ13, 1ปต.3:2-5) ? ความรับผิดชอบ – อย่า แต่งงานกับคนที่เห็นแก่ตัวและเกียจคร้าน ซึ่งขาดความปรารถนาหรือวิธีการที่จะทำให้ความรับผิดชอบที่เฉพาะเจาะจงสำเร็จ ลง เพราะว่าเพียงคำสัญญารักนั้นไม่อาจทำให้เรามีเงินชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ ถ้าเราไม่ควรแต่งงานกับคนที่ไม่เชื่อ เราก็ต้องไม่แต่งงานกับคนที่ขาดความรับผิดชอบทางการเงินและเกียจคร้านเช่น เดียวกัน “ถ้าแม้ผู้ใดไม่เลี้ยงดูวงศ์ญาติของตน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในบ้านเรือนของตน ผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธพระศาสนาเสียแล้ว และชั่วยิ่งกว่าคนที่ไม่ได้เชื่อเสียอีก” (1ทธ.5:8) ? ความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ – ความ สัมพันธ์ที่บุคคลมีกับพ่อแม่จะบอกเราได้มากมายเกี่ยวกับคุณลักษณะชีวิตของ เขา พระเจ้าทรงให้คุณค่าอย่างสูงในเรื่องการแสดงความนับถือและให้เกียรติบิดา มารดา (อฟ.6:1-3) อย่า คาดหวังสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่ก็อย่าเลือกคนที่เราคิดว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาได้ จงเตรียมตัวที่จะอยู่กับคนนั้น แม้ว่าเขาหรือเธอจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม!!
** ถ้าเรากำลังคิดจะแต่งงานกับใครสักคน เรารู้จักคนนั้นดีพอหรือไม่ที่จะสรุปว่าเขาหรือเธอจะช่วยความสัมพันธ์ของเรา กับพระคริสต์ให้ดีขึ้น** 4. ใช้สติปัญญา – การเลือกคู่ไม่สามารถใช้การโยนเหรียญได้ เราจำเป็นต้องใช้ความคิดอย่างมาก อธิษฐานมาก และพึ่งพาการทรงนำจากพระเจ้ามาก เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่จะมีผลต่อเรา (และคู่ของเรา) ในตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเล่นๆ ได้ ? แสวงหาจากสถานที่ที่เหมาะสม ? ทูลขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ? อย่าวางการตัดสินใจไว้บน “หมายสำคัญ” เพียงหมายสำคัญเดียว แม้เราจะเชื่ออย่างจริงใจว่าหมายสำคัญนั้นมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ก็อย่าโยนสติปัญญาทิ้ง ? แสวงหาคำแนะนำ อารมณ์อาจบดบังไม่ให้เราเห็นจุดบกพร่องในลักษณะชีวิตที่สำคัญของคนที่เรา สนใจจะแต่งงานด้วย ในสุภาษิตเตือนว่า เราจำเป็นต้องตรวจสอบการตัดสินใจของเราอีกครั้งหนึ่งด้วยการปรึกษาคนที่เรา ไว้วางใจได้ ? ศึกษาครอบครัว การ ที่บุคคลหนึ่งเข้ากันกับพ่อแม่พี่น้องได้ดีเพียงใด จะบอกเราถึงคุณภาพชีวิตของเขาอย่างมาก สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่ของเขา เป็นที่แน่นอนว่า แบบอย่างจากท่านจะเป็นรอยประทับอันลึกซึ้งในตัวคู่ชีวิตในอนาคตของเรา ? อย่ารีบร้อน เราต้องแน่ใจว่ารู้จักตัวเองและอีกฝ่ายหนึ่งดีพอที่จะมั่นใจได้ว่า เราเหมาะกันและพร้อมที่จะเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ยาวนานชั่วชีวิต (สภษ.19:2, 29:20) **ความรักใช้เวลาเติบโตและพัฒนา** พระ เจ้าทรงประทานเสรีภาพในการเลือกและการตัดสินใจให้กับเรา แต่เราก็มั่นใจได้ว่าพระองค์ทรงควบคุมอยู่ เสรีภาพนั้นรวมถึงโอกาสผิดพลาด ทั้งที่ไม่ได้เจตนาและที่เป็นบาปด้วย แทนที่เราจะอยู่ไปวันๆ และเป็นทุกข์ว่าเรากำลังเลือกคนที่พระเจ้าทรงวางแผนให้เราแต่งงานด้วยหรือ ไม่ เราน่าจะดำเนินชีวิตโดยพึ่งพาองค์พระผู้เป็นเจ้าต่อไป และไว้วางใจพระองค์ว่าจะทรงนำเราไปพบคนที่เหมาะกับเรา
5. คิดล่วงหน้า – คนจำนวนมากตัดสินใจแต่งงานโดยคิดแล้วว่าตัวเองกำลังเผชิญกับอะไร แม้กระนั้นปัญหาก็ยังเกิดขึ้น เพราะเขาเหล่านั้นยังมีทัศนะเรื่องการแต่งงานบนพื้นฐานของพระคัมภีร์น้อย หรือไม่ก็คาดหวังโดยขาดประสบการณ์ว่าจะมีแต่เรื่องรักใครเรื่อยไปโดยไม่มี เรื่องระหองระแหงเลย
ความรับผิดชอบในชีวิตแต่งงาน :-
? ความสัตย์ซื่อในเรื่องเพศทั้งทางพฤติกรรมและท่าที – สามีและภรรยาต้องมีสายตาและความคิดเพื่อกันและกันเท่านั้น ? บทบาทที่เฉพาะเจาะจง – พระเจ้าทรงสร้างชายและหญิงให้มีบทบาทด้านชีวภาพและด้านความสัมพันธ์ที่แตก ต่างกัน และพระคัมภีร์ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเราควรละเลยหรือมองข้ามความเฉพาะเจาะจงที่ พระเจ้าทรงสร้างไว้ ความ รักต้องมีการลงทุนสูง คนที่เข้าสู่การแต่งงานโดยคิดว่าชีวิตจะมีแต่ความสุขสำราญแบบโรแมนติค ก็กำลังคาดเดาเพียงผิวเผินเท่านั้น คนส่วนใหญ่มองเห็นความเป็นจริงมากกว่านี้ แต่ความคาดหวังของเขาก็ยังคงเกินกว่าความจริงที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ใน ชีวิตแต่งงาน
พระเจ้าทรงเกลียดชังการหย่าร้าง (มลค.2:16) ฉะนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจครั้งสำคัญ เราควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การแต่งงานนั้นบริสุทธิ์และเป็นที่ถวายเกียรติพระเจ้า ความรักแท้นั้นมากกว่าความรู้สึก ความรักอาจนำเราขึ้นสู่ยอดเขาในวันนี้ และอาจดิ่งลงเหวในวันต่อมา ความรักประเภทที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อเข้าสู่การแต่งงานอย่างพรักพร้อมเพื่อ สถานการณ์ “ไม่ว่าดีหรือร้าย ร่ำรวยหรือยากจน...จนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน” คือ ความรักที่เสียสละตนเอง มอบตนเองเพราะเห็นแก่อีกฝ่ายหนึ่ง....
***************************************
ยังไงก็ขอพระเจ้าอวยพรให้สมหวังได้พบกับ “คนที่ใช่” ทู๊กกกกคนจ้า...
แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้ (มธ.6:33) Love in Christ เปิ้ล
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น